
รายงานผลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในระดับหลักสูตร (ย่อย) ปีการศึกษา 2564
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา หลักสูตรปรับปรุง (พ.ศ. 2563)
บทสรุปผู้บริหาร
คณะกรรมการได้ดำเนินการตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน จากผลการดำเนินงานของหลักสูตรปรัชญาดุษฏีบัณฑิต (สาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา) มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาเพื่อการพัฒนาองค์กรทุก ๆ ด้านให้มีประสิทธิภาพตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาหรือ สกอ. ได้กำหนดให้สถาบันอุดมศึกษาดำเนินการตามองค์ประกอบคุณภาพ 6 องค์ประกอบ ประกอบด้วยตัวบ่งชี้จำนวน 13 ตัวบ่งชี้ โดยเป็นกลุ่มสถาบันที่เน้นระดับปริญญาตรีตัวบ่งชี้ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาจำนวน 13 ตัวบ่งชี้ รายงานการประเมินตนเองฉบับนี้ปีการศึกษา 2564 วงรอบ 1 มิถุนายน 2564ถึง 31 พฤษภาคม 2565 มีการประเมินตามหลักเกณฑ์ของ สกอ. โดยคะแนนเต็ม 1-5 คะแนนทุกตัวบ่งชี้ซึ่งผลการประเมินมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
องค์ประกอบที่ 1 การกำกับมาตรฐาน ผ่าน การประเมินถือว่าเป็นหลักสูตรที่ได้มาตรฐาน
องค์ประกอบที่ 2 บัณฑิต งดรับการประเมิน
องค์ประกอบที่ 3 นักศึกษา ได้คะแนน 2.67 อยู่ในระดับคุณภาพ ปานกลาง
องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์ ได้คะแนน 3.25 อยู่ในระดับคุณภาพ ดี
องค์ประกอบที่ 5 หลักสูตร การเรียนการสอน การประเมินผู้เรียน ได้คะแนน 3.50 อยู่ในระดับคุณภาพ ดี
องค์ประกอบที่ 6 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ได้คะแนน 3.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ปานกลาง
โดยภาพรวมการตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหลักสูตรปรัชญาดุษฏีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ผ่าน การประเมินถือว่าเป็นหลักสูตรที่ได้มาตรฐาน ผลการประเมินรวมทุกองค์ประกอบ 3.16 อยู่ในระดับคุณภาพ ดี
บทนำ
1.1 ชื่อหลักสูตร ชื่อปริญญาและสาขาวิชา
1) ชื่อหลักสูตร หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา หลักสูตรปรับปรุง (พ.ศ. 2563)
2) ชื่อปริญญา ปรด.
3) สาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา
1.2 คณะต้นสังกัดและสถานที่เปิดสอน
1) คณะต้นสังกัด วิทยาเขตล้านนา
2) สถานที่เปิดสอน
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา
1.3 ปรัชญาความสำคัญและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
1) ปรัชญาของหลักสูตร
“รอบรู้พระพุทธศาสนา เชี่ยวชาญปรัชญา กล้าหาญทางคุณธรรม นำองค์ความรู้สู่การพัฒนามนุษย์”
2) ความสำคัญของหลักสูตร
การแสวงหาและต่อยอดแนวคิดทางการศึกษา เพื่อเติมเต็มองค์แห่งความรู้ในสิ่งที่ขาดหายไป เพื่อสร้างจุดเชื่อมโยงระหว่างแนวคิดต่าง ๆ อันจะก่อให้เกิดความร่วมมือ ความเข้าใจ และไว้ใจซึ่งกันและกัน ก้าวผ่านความรู้ความเชื่อแบบมิติเดียว ตระหนักในความสกคัญของคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง
พุทธศาสนาและปรัชญาได้ทำหน้าที่พยุงคุณค่าทางด้านความคิด ความเชื่อ ตลอดทั้งภูมิปัญญาด้านต่าง ๆ ของมนุษย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังคงท าหน้าที่ของตนเองต่อไป ทิศทางการศึกษาของมนุษยชาติจะก้าวหน้าและดำเนินไปในทิศทางใด สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือผู้ชี้แนะแนวทางให้แก่สังคม ผู้ที่จะสามารถชี้แนะ
แนวทางการศึกษาได้ดีนั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในหลักพุทธศาสนาและปรัชญาเป็นอย่างดี จึงจะสามารถทำหน้าที่นั้นได้อย่างสมบูรณ์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้ตระหนักถึงคุณค่าของพุทธศาสนาและปรัชญาดังกล่าว จึงได้ให้ความสำคัญต่อการผลิตบัณฑิตที่ทรงความรู้และความสามารถทาง
พุทธศาสนาและปรัชญา สามารถสังเคราะห์องค์ความรู้ใหม่ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ สามารถชี้น าสังคมสู่วิถีทางที่ถูกต้อง และเสริมสร้างสันติสุขแก่สังคมโลก จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะขยายการศึกษาในด้านพุทธศาสนาและปรัชญาให้กว้างขวางในสังคมมากยิ่งขึ้น
3) วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
1. เพื่อผลิตดุษฎีบัณฑิตที่มีคุณภาพ มีความรู้และความเชี่ยวชาญทางพุทธศาสนาและปรัชญาสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ และบูรณาการกับวิทยาการสมัยใหม่ได้อย่างเป็นระบบ
2. เพื่อผลิตดุษฎีบัณฑิตที่มีบุคลิกภาพดี สามารถนำความรู้ประยุกต์ใช้กับสังคม สามารถให้ข้อเสนอแนะและชี้นำแก่สถาบันและองค์กรต่าง ๆ ในสังคมได้เป็นอย่างดี
3. เพื่อสร้างนักคิดและผู้นำที่มีความรู้คู่คุณธรรม มีจิตใจกว้างขวาง กล้าหาญและเสียสละ
4. พื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นต้นแบบทางความคิดอันเกิดจากการวิจัยทางด้านพุทธศาสนาและปรัชญาในระดับสูง บัณฑิตสามารถสร้างทฤษฎีขึ้นใหม่ได้ โดยเน้นประสบการณ์ในงานวิจัยและมีวิทยานิพนธ์ที่มีคุณภาพดี เพื่อพัฒนาวิชาการด้านพุทธศาสนาและปรัชญาของชาติ
1.4 รหัสหลักสูตร 25631868002365
สรุปผลการประเมิน
ผลการประเมินตามตัวบ่งชี้ตามองค์ประกอบคุณภาพระดับหลักสูตร
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา หลักสูตรปรับปรุง (พ.ศ. 2563)
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา
ปีการศึกษา 2564
องค์ประกอบที่ 1 การกำกับมาตรฐาน
เกณฑ์การประเมิน | ผลการดำเนินการ |
---|---|
1. จํานวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรไม่น้อยกว่า 3 คนและเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เกินกว่า 1 หลักสูตรไม่ได้และประจำหลักสูตรตลอดระยะเวลาที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรนั้น |
|
2. คุณสมบัติของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร มีคุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่าที่มีตำแหน่งศาสตราจารย์ขึ้นไป และมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลังโดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็นผลงานวิจัย |
|
3. คุณสมบัติอาจารย์ประจำหลักสูตร มีอาจารย์ประจำหลักสูตรที่มีคุณสมบัติขั้นต่ำปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือขั้นต่ำปริญญาโท หรือเทียบเท่าที่มีตำแหน่งรองศาสตราจารย์ขึ้นไป มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลังโดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็นผลงานวิจัย |
|
4. คุณสมบัติของอาจารย์ผู้สอน อาจารย์ประจำ มีคุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือขั้นต่ำปริญญาโท หรือเทียบเท่าที่มีตำแหน่งรองศาสตราจารย์ในสาขาวิชานั้น หรือสาขาวิชาที่สัมพันธ์กัน หรือสาขาวิชาของรายวิชาที่สอน และต้องมีประสบการณ์ด้านการสอนและมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง คุณสมบัติของ อาจารย์พิเศษ (ถ้ามี) มีคุณวุฒิขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่า ในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่สัมพันธ์กันหรือสาขาวิชาของรายวิชาที่สอน และต้องมีประสบการณ์ด้านการสอนและมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการใน 5 ปีย้อนหลัง มีชั่วโมงสอนไม่เกินร้อยละ 50 ของรายวิชา โดยมีอาจารย์ประจำเป็นผู้รับผิดชอบรายวิชานั้น |
|
5. คุณสมบัติของอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลักและอาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระ อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลักและอาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระ ต้องเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรที่มีคุณวุฒิปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือ ขั้นต่ำปริญญาโท หรือเทียบเท่าและดำรงตำแหน่งทางวิชาการไม่ต่ำกว่ารองศาสตราจารย์ในสาขาวิชานั้น หรือสาขาวิชาที่สัมพันธ์กัน และต้องมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็นผลงานวิจัย |
|
6. คุณสมบัติของอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม (ถ้ามี) อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม ต้องมีคุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือขั้นต่ำปริญญาโท หรือเทียบเท่าและดำรงตำแหน่งทางวิชาการไม่ต่ำกว่ารองศาสตราจารย์ในสาขาวิชานั้น หรือสาขาวิชาที่สัมพันธ์กัน และต้องมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็นผลงานวิจัย |
|
7. คุณสมบัติของอาจารย์ผู้สอบวิทยานิพนธ์ อาจารย์ผู้สอบวิทยานิพนธ์ ประกอบด้วย อาจารย์ประจำหลักสูตร และผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกไม่น้อยกว่า 5 คน ประธานผู้สอบวิทยานิพนธ์ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก อาจารย์ประจำหลักสูตร ต้องมีคุณวุฒิปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือ ขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่าและดำรงตำแหน่งทางวิชาการไม่ต่ำกว่ารองศาสตราจารย์ ในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่สัมพันธ์กัน และมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการใน 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็นผลงานวิจัย ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก มีคุณวุฒิปริญญาเอกหรือเทียบเท่าและมีผลงานทางวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในระดับชาติ ซึ่งตรงหรือสัมพันธ์กับหัวข้อวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระไม่น้อยกว่า 10 เรื่อง หากไม่มีคุณวุฒิหรือประสบการณ์ตามที่กำหนดจะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงเป็นที่ยอมรับซึ่งตรงหรือสัมพันธ์กับหัวข้อวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ โดยผ่านการเห็นชอบของสภาสถาบันและแจ้ง กกอ ทราบ |
|
8. การตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานของผู้สำเร็จการศึกษา การตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานของผู้สำเร็จการศึกษา กรณี แผน ก1 ต้องได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศของ กกอ. กรณี แผน ก2 ต้องได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศของ กกอ. หรือ นำเสนอต่อที่ประชุมวิชาการโดยบทความที่นำเสนอได้รับการตีพิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจากการประชุมทางวิชาการ (proceedings) กรณี แผน ข รายงานการค้นคว้าหรือส่วนหนึ่งของการค้นคว้าอิสระต้องได้รับการเผยแพร่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่งที่สืบค้นได้ |
|
9. ภาระงานอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และการค้นคว้าอิสระในระดับบัณฑิตศึกษา วิทยานิพนธ์ อาจารย์คุณวุฒิปริญญาเอก 1 คนต่อนักศึกษา 5 คน การค้นคว้าอิสระ อาจารย์คุณวุฒิปริญญาเอก 1 คนต่อนักศึกษา 15 คน หากอาจารย์คุณวุฒิปริญญาเอกและมีตำแหน่งทางวิชาการหรือปริญญาโท และมีตำแหน่งทางวิชาการระดับรองศาสตราจารย์ขึ้นไป 1 คนต่อนักศึกษา 10 คน หากเป็นที่ปรึกษาทั้ง 2 ประเภทให้เทียบสัดส่วนนักศึกษาที่ทำวิทยานิพนธ์ 1 คนเทียบเท่ากับนักศึกษาที่ค้นคว้าอิสระ 3 คน |
|
10. การปรับปรุงหลักสูตรตามรอบระยะเวลาที่กำหนด มีการปรับปรุงหลักสูตรตามรอบระยะเวลาที่กำหนด ต้องไม่เกิน 5 ปี ตามรอบระยะเวลาของหลักสูตร หรืออย่างน้อยทุก ๆ 5 ปี |
|
สรุปผลการประเมิน | ผ่าน |
ตัวบ่งชี้คุณภาพ | เป้าหมาย | คะแนนประเมินจากคณะกรรมการ | |
---|---|---|---|
องค์ประกอบที่ 2 บัณฑิต | |||
2.1 คุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ ระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ |
|
||
2.2 ผลงานของนักศึกษาและผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอกที่ได้รับการตีพิมพ์หรือเผยแพร่ |
|
||
เฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบที่ 2 บัณฑิต |
|
||
องค์ประกอบที่ 3 นักศึกษา | |||
3.1 การรับนักศึกษา |
|
|
|
3.2 การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา |
|
|
|
3.3 ผลที่เกิดกับนักศึกษา |
|
|
|
เฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบที่ 3 นักศึกษา |
|
||
องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์ | |||
4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์ |
|
|
|
4.2 คุณภาพอาจารย์ |
|
|
|
4.3 ผลที่เกิดขึ้นกับ อาจารย์ |
|
|
|
เฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบที่ 4 อาจารย์ |
|
||
องค์ประกอบที่ 5 หลักสูตร การเรียนการสอน การประเมินผู้เรียน | |||
5.1 สาระของรายวิชาใน หลักสูตร |
|
|
|
5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรียนการสอน |
|
|
|
5.3 การประเมินผู้เรียน |
|
|
|
5.4 ผลการดำเนินงานตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ |
|
|
|
เฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบที่ 5 หลักสูตร การเรียนการสอน การประเมินผู้เรียน |
|
||
องค์ประกอบที่ 6 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ | |||
6.1 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ |
|
|
|
เฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบที่ 6 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ |
|
||
เฉลี่ยรวมทุกตัวบ่งชี้ (11 ตัวบ่งชี้) |
|
ตารางวิเคราะห์คุณภาพการศึกษาในระดับหลักสูตรปีการศึกษา 2564
องค์ประกอบที่ | คะแนนผ่าน | จำนวนตัวบ่งชี้ | I | P | O | คะแนนเฉลี่ย | ผลการประเมิน 0.01-2.00 ระดับคุณภาพน้อย 2.01-3.00 ระดับคุณภาพปานกลาง 3.01-4.00 ระดับคุณภาพดี 4.01-5.00 ระดับคุณภาพดีมาก |
---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผ่าน | หลักสูตรได้มาตรฐาน | |||||
2 | ![]() |
0 | - | - | - | - | - |
3 | 3 | 2.67 | - | - | 2.67 | ปานกลาง | |
4 | 3 | 3.25 | - | - | 3.25 | ดี | |
5 | 4 | 3.00 | 3.67 | - | 3.50 | ดี | |
6 | 1 | - | 3.00 | - | 3.00 | ปานกลาง | |
รวม | 11 | 2.96 | 3.50 | - | 3.16 | ดี | |
ผลการประเมิน | ปานกลาง | ดี | - | ดี | ดี |
จุดเด่นและโอกาสในการพัฒนา
องค์ประกอบที่ 1 การกำกับมาตรฐาน
จุดแข็ง
1.อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรควรสร้างแรงจูงใจให้บัณฑิต และนิสิตในหลักสูตร ตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานในวารสารที่มีค่าถ่วงน้ำหนักสูงคือ TCI กลุ่ม 2
องค์ประกอบที่ 2 บัณฑิต
-องค์ประกอบที่ 3 นักศึกษา
จุดที่ควรพัฒนา
1.จำนวนนิสิตในหลักสูตรไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน มคอ 2 หรือตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแต่ละปีการศึกษา
แนวทางพัฒนา
1.อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต้องประชาสัมพันธ์การรับนิสิตในเชิงลุกหรือรวมทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์หลักสูตรให้มากกว่าปีการศึกษาที่ผ่านมา ในทุกช่องทางที่กำหนดไว้ในกระบวนการทำงาน โดยให้ความสำคัญกับความมุ่งหวังของผู้เรียน ทั้งกลุ่มผู้เรียนในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ร่วมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยสำรวจความคาดหวังและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มให้ชัดเจน นำผลที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อออกแบบปรับปรุงหลักสูตรและกำหนดกลยุทธ์สร้างความโดดเด่นและจุดขายของหลักสูตร ดึงดูดผู้เรียนในอนาคต
องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์
จุดแข็ง
1.อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีตำแหน่งทางวิชาการ เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้
2.อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรตีพิมพ์และเผยแพร่ ผลงานทางวิชาการในวารสารตั้งแต่การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ วารสารระดับชาติเป็นจำนวนมาก
แนวทางเสริมจุดแข็ง
1.อาจารย์ผู้รับผิดชอบสร้างระบบและกลไกรวมทั้งทุนสนับสนุนให้อาจารย์ตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการในระดับชาติที่มีค่าถ่วงน้ำหนักสูง และในระดับนานาชาติ (Scopus) ให้มากขึ้น
2.นำศักยภาพ ความเชี่ยวชาญของอาจารย์ ทั้งในทางวิชาการและทางปฏิบัติถ่ายทอด บูรณาการความรู้ให้กับผู้เรียน ชุมชน เครือข่าย เพื่อทำให้หลักสูตรเข้มแข็งยิ่งขึ้น
องค์ประกอบที่ 5 หลักสูตร การเรียนการสอน การประเมินผู้เรียน
จุดแข็ง
หลักสูตรมีอาจารย์ที่มีประสบการณ์ด้านวิชาการพระพุทธศาสนาและปรัชญา จึงสามารถทำกลยุทธ์สร้างความโดดเด่นหรือจุดขายของหลักสูตรเพื่อออกแบบและพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย สอดคล้องกับการเรียนรู้สมัยใหม่ รวมทั้งหลักสูตรมีการบูรณาการกับภูมิปัญญาท้องถิ่น กับการเรียนการสอนเป็นกิจกรรมที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคม เพื่อสนองความต้องการของผู้เรียนในอนาคต
องค์ประกอบที่ 6 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้
-สิ่งต้องปรับปรุงเร่งด่วน (ถ้ามี)
เร่งดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพ (Improvement plan) ในองค์ประกอบที่ 3 ได้แก่ การรับนักศึกษา การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา และ ผลที่เกิดกับนักศึกษา